ระบบปฏิบัติการ iOS 18 ของ Apple เป็นเรื่องที่ผู้ใช้งานหลายคนรอคอย โดยเฉพาะเมื่อมีการประกาศเปิดตัว iOS 18 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุงต่าง ๆ แต่ก่อนที่จะเพลิดเพลินกับสิ่งใหม่ ๆ ได้นั้น คุณจำเป็นต้องตรวจสอบ iOS 18 รุ่นที่รองรับอัปเดตนี้หรือไม่?
ในบทความนี้ เราจะนำเสนอวิธีตรวจสอบรุ่นของ iPhone และ iPad ของคุณว่ารองรับ iOS 18 หรือไม่? รวมถึงบอกเกี่ยวกับ iOS 18 รุ่นไหนไม่ได้ไปต่อ เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมสำหรับการอัปเดตที่กำลังจะมาถึงอย่างไร้กังวล
ส่วนที่ 2: iOS 18 รุ่นที่รองรับ
iOS 18 จะรองรับมือถือทุกรุ่นที่รองรับ iOS 17 อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอุปกรณ์ที่รองรับ iPad นั้นบางรุ่นจะถูกกำจัดออกไปและจะไม่ได้รับการอัปเดตเป็น iPadOS 18
หากข่าวเป็นจริง นอกจาก iPhone 16 Series ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปีนี้แล้ว iOS 18 ยังรองรับ iPhone และ iPad รุ่นต่อไปนี้ด้วย
1 iOS 18 รุ่นที่รองรับ iPhone
▼ iOS 18 รุ่นที่รองรับ iPhone ดังต่อไปนี้::
-
iPhone 15, 15 Plus, 15 Pro และ 15 Pro Max
-
iPhone 14, 14 Plus, 14 Pro และ 14 Pro Max
-
iPhone 13, 13 Mini, 13 Pro และ 13 Pro Max
-
iPhone 12, 12 Mini, 12 Pro และ 12 Pro Max
-
iPhone 11, 11 Pro และ 11 Pro Max
-
iPhone XS และ XS Max
-
iPhone XR
-
iPhone SE (รุ่นที่ 2 และ 3)
2 iOS 18 รุ่นที่รองรับ iPad
▼iOS 18 รุ่นที่รองรับ iPad ดังต่อไปนี้:
-
iPad Pro (2018 หรือใหม่กว่า)
-
iPad Air (เวอร์ชัน 2019 หรือใหม่กว่า)
-
iPad (เวอร์ชัน 2020 หรือใหม่กว่า)
-
iPad Mini (เวอร์ชัน 2019 หรือใหม่กว่า)
ส่วนที่ 3: iOS 18 มีอะไรใหม่?
อย่างที่รู้กันว่า สาวก iOS จะเฝ้ารอ iOS 18 มีอะไรใหม่ เพื่อสนุกไปกับฟีเจอร์การใช้งานและการปรับปรุงประสิทธิภาพ ทำให้การใช้งาน iPhone และ iPad ของคุณน่าสนใจยิ่งขึ้น และนี่คือฟีเจอร์เด่นที่คาดว่าจะได้เห็นใน iOS 18
1 พัฒนา Xcode รวมกับ Generative AI
Apple กำลังพัฒนา Xcode รุ่นใหม่ที่ผสานรวมกับ AI เพื่อให้สามารถแข่งขันกับ Copilot ของ Microsoft ได้ ข้อมูลจากแหล่งข่าวระบุว่า Xcode ใหม่จะใช้ AI เพื่อช่วยในการเขียนโค้ด ทำให้กระบวนการพัฒนาแอปพลิเคชันง่ายขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดเวลาและต้นทุนในการพัฒนา
ในขณะนี้ Apple กำลังทดสอบฟีเจอร์ AI ใหม่ใน Xcode กับวิศวกรภายในองค์กร โดยมีแผนที่จะเปิดตัวฟีเจอร์นี้ให้กับบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ภายนอกในปีนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าฟีเจอร์นี้จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหลังการเปิดตัว iOS 18
2 นำฟีเจอร์ AI ใหม่เข้ามามากขึ้น
Mark Gurman นักข่าวจาก Bloomberg รายงานว่า Apple ต้องการให้ iOS 18 เป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ที่ “น่าตื่นเต้น” ที่สุดในรอบหลายปี โดยจะนำฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ AI เข้ามาใช้อย่างมากมาย และมองว่าเป็นหนึ่งในอัปเดต iOS ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งสัญญาว่าจะเปิดเผยแผนการ AI และฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องในเดือนมิถุนายนปีนี้
แหล่งข่าวภายในระบุว่า การอัปเดตซอฟต์แวร์ครั้งต่อไปของ iPhone และ iPad จะรวมฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ ไว้มากมาย โดยมีชื่อรหัสภายในว่า Crystal ซึ่งจะผสานรวมกับการออกแบบฮาร์ดแวร์ของ iPhone 16 ให้เป็นการอัปเดตครั้งสำคัญที่สุด
Apple ยังมีแผนที่จะนำฟีเจอร์ AI บางอย่างเข้ามาใน macOS เวอร์ชันถัดไป โดยใช้ชื่อรหัสว่า Glow โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนา AI ในรูปแบบที่ก้าวหน้าขึ้น และบางฟีเจอร์เสริมจะยังไม่ปรากฏในอีกหลายปีข้างหน้า
3 พัฒนาและผสาน AI กับแอปฯภายใน iOS
iOS 18 จะผสานรวมเทคโนโลยี AI ในแอปพลิเคชันในตัวระบบเพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ โดยฟีเจอร์ที่ได้รับการปรับปรุงด้วย AI ที่ทราบในปัจจุบันมีดังนี้
Apple Music:
Apple จะใช้เทคโนโลยี AI ใน Apple Music เพื่อสร้างเพลย์ลิสต์อัตโนมัติตามความชอบและพฤติกรรมการฟังเพลงของผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาเพลงและประเภทที่ชื่นชอบได้ง่ายขึ้น
แอปพลิเคชัน iWork:
แอปพลิเคชัน iWork อย่าง Keynote, Pages และ Numbers จะได้รับการผสานรวมเทคโนโลยี AI เพื่อช่วยในการสร้างเอกสารและงานนำเสนอได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
แอปพลิเคชันในตัวระบบอื่น ๆ:
ฟีเจอร์ในตัวระบบและแอปพลิเคชันอื่น ๆ ใน iOS 18 เช่น สุขภาพ, ข้อความ และทางลัด ก็จะได้รับการผสานรวม AI อย่างลึกซึ้งมากขึ้น เพื่อปรับปรุงการทำงานและประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้
4 Siri เก่งขึ้น
Siri จะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ด้วยการผสานรวมกับ AI และเทคโนโลยีของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เพื่อให้สามารถตอบคำถามที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้ง Siri จะสามารถดำเนินงานหลายอย่างพร้อมกันได้ เช่น สร้าง GIF จากรูปภาพที่ถ่ายล่าสุดโดยใช้คำสั่งเสียงเดียว เป็นต้น
5 การค้นหา Spotlight
ใน iOS 18 ระบบค้นหา Spotlight ได้รับการปรับปรุงด้วยการแนะนำ AI ซึ่งฟีเจอร์ใหม่นี้จะทำให้ Spotlight ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เพื่อตอบสนองต่อคำถามที่ซับซ้อนและสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันเฉพาะในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบัน Spotlight ถูกจำกัดไว้เพียงการเปิดตัวแอปพลิเคชัน การค้นหาเว็บขั้นพื้นฐาน การตรวจสอบสภาพอากาศ และการตรวจสอบคะแนนกีฬาและข้อมูลอื่น ๆ การปรับปรุงใน iOS 18 นี้จะทำให้ Spotlight มีความสามารถที่หลากหลาย เพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาและการใช้งานในแอปพลิเคชันต่าง ๆ
6 รองรับ RCS สำหรับการสื่อสารระหว่าง iPhone และ Android
ในช่วงปลายปี 2024 iPhone จะรองรับมาตรฐานการสื่อสาร RCS (Rich Communication Services) ซึ่งหนึ่งใน iOS 18 มีอะไรใหม่ที่น่าสนใจ
ถึงแม้ว่า iPhone จะรองรับ RCS แต่ไม่ได้หมายความว่า iMessage จะสามารถใช้งานบน Android ได้เต็มรูปแบบ Apple ยังคงใช้กลยุทธ์ในการแยกแยะข้อความ RCS เป็นไอคอนสีเขียว ในขณะที่ข้อความ iMessage ยังคงมีไอคอนสีน้ำเงินที่เป็นเอกลักษณ์ของ Apple
เมื่อ iOS 18 รองรับ RCS แล้ว การสื่อสารระหว่าง iPhone และอุปกรณ์ Android จะได้รับการปรับปรุงหลายด้าน เช่น:
- สนับสนุนการส่งรูปภาพและวิดีโอความละเอียดสูง
- ส่งข้อความเสียง
- แสดงสถานะการพิมพ์แบบเรียลไทม์
- แจ้งเตือนว่าอ่านข้อความแล้ว
- การสนับสนุนการสนทนาในกลุ่ม
- การส่งข้อความผ่าน Wi-Fi ระหว่าง iPhone และอุปกรณ์ Android
การปรับปรุงนี้จะทำให้การสื่อสารระหว่างผู้ใช้ iPhone และ Android มีความราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น
7 โหมดช่วยฟังใหม่สำหรับ AirPods Pro
Apple มีแผนที่จะเปิดตัวโหมดช่วยฟังใหม่สำหรับ AirPods Pro หลังจากการเปิดตัว iOS 18 อย่างเป็นทางการ โหมดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ที่มีปัญหาการได้ยินและผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
8 ปรับแต่ง Home Screen ได้อิสระ
Apple มีแผนที่จะทำการปรับปรุงครั้งใหญ่กับฟีเจอร์การจัดเรียงแอปพลิเคชันบนหน้าจอหลักใน iOS 18 โดยจะอนุญาตให้ผู้ใช้ iPhone สามารถปรับแต่งตำแหน่งของแอปพลิเคชันบนหน้าจอหลักได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องถูกจำกัดให้เรียงชิดกันในรูปแบบตารางเหมือนเดิม
การปรับปรุงนี้เป็นอีกหนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้คาดหวังใน iOS 18 มีอะไรใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน iPhone ทำให้การจัดการหน้าจอหลักเป็นเรื่องง่ายและสนุกยิ่งขึ้น
9 ฟีเจอร์ “Freeform Scenes” ในแอป Freeform
ฟีเจอร์ใหม่ “Freeform Scenes” ในแอป Freeform มาพร้อมกับ iOS 18 ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้กระดานเสมือนจริงในการวางแผน จัดระเบียบ หรือทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยการสร้างฉากที่เหมาะสมกับการทำงานแต่ละประเภทหรือโปรเจ็กต์ต่าง ๆ
10 ฟีเจอร์สร้างเส้นทางและรายละเอียดภูมิประเทศใน Apple Maps
ใน iOS 18 Apple Maps จะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้ iPhone สามารถสร้างเส้นทางการเดินทางที่กำหนดเองได้ ซึ่งแตกต่างจากเส้นทางที่แนะนำโดยแผนที่ ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้มีความยืดหยุ่นในการควบคุมรายละเอียดของเส้นทางได้เอง
11 แอปเครื่องคิดเลขใหม่สำหรับ iPadOS
Apple เตรียมเปิดตัวแอปเครื่องคิดเลขในตัวสำหรับ iPadOS 18 โดยจะมาพร้อมกับการอัปเกรดเครื่องคิดเลขใน iOS 18 และ macOS 15 ด้วย
12 รวมคำพูดและคณิตศาสตร์ในแอป Notes
ใน iOS 18 แอป Notes จะได้รับการอัปเดตใหม่ที่อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มฟังก์ชันคณิตศาสตร์ทางวิศวกรรมลงในโน้ตได้โดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถผสานรวมโน้ตกับบันทึกเสียงได้ ช่วยให้การจดบันทึกมีประสิทธิภาพและครอบคลุมยิ่งขึ้น
13 CarPlay ใหม่
CarPlay รุ่นใหม่จะเปิดตัวในปี 2024 และจะเปิดตัวพร้อมกับ iOS 18 ฟีเจอร์ใหม่ใน CarPlay จะมาพร้อมกับการปรับปรุงการใช้งานและการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะรองรับการใช้งานร่วมกับระบบรถยนต์ที่หลากหลายมากขึ้น ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ของรถยนต์ผ่านหน้าจอ CarPlay ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
14 การแจ้งเตือนปฏิทิน
Apple กำลังปรับปรุงแอปปฏิทินและการเตือนความจำใน iOS 18 และ macOS 15 ผู้ใช้ iPhone และ Mac จะสามารถจัดการการเตือนความจำและกิจกรรมในปฏิทินได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
15 การเปลี่ยนเพลง Apple Music
Apple Music เวอร์ชันใหม่จะช่วยให้การเปลี่ยนเพลงระหว่างเพลงมีความนุ่มนวล และเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งเวลาเปลี่ยนผ่านตามความต้องการได้ ซึ่งจะช่วยให้การฟังเพลงมีประสบการณ์ที่ต่อเนื่องและราบรื่นมากขึ้น
16 Apple Music Passthrough
iOS 18 จะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า “Passthrough” สำหรับ Apple Music ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบเสียงร่วมกับ Dolby Atmos ฟีเจอร์นี้สามารถเปิดใช้งานได้โดยไม่ต้องสมัครสมาชิก Apple Music แต่จะจำกัดเฉพาะการใช้งานกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์บางตัวเท่านั้น
17 กำหนดเวลาสรุปการแจ้งเตือน
หนึ่งใน iOS 18 มีอะไรใหม่ที่น่าสนใจ คือ ระบบการแจ้งเตือนที่ใช้เทคโนโลยี AI ช่วยจัดระเบียบประเด็นสำคัญสำหรับผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ
18 iPhone รองรับ “Eye Tracking”
ใน iOS 18 iPhone จะรองรับฟีเจอร์ “Eye Tracking” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและโต้ตอบกับอุปกรณ์ด้วยการติดตามการเคลื่อนไหวของดวงตา โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอด้วยมือ จากนั้นหน้าจอจะสว่างขึ้นโดยอัตโนมัติ มีหลักการทำงานเดียวกับเทคโนโลยีติดตามดวงตาของ Vision Pro
19 Music Tactile Feedback
iOS 18 จะเพิ่มฟังก์ชันเสริมใหม่ที่เรียกว่า “Music Tactile Feedback” ฟีเจอร์นี้สามารถจำลองการสั่นสะเทือนของเพลงได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินสามารถรู้สึกถึงจังหวะและจุดเด่นของเพลงได้
20 ข้อแนะนำในการเคลื่อนย้ายยานพาหนะ
iOS 18 จะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า “แจ้งเตือนการเคลื่อนไหวของยานพาหนะ” ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อลดความรู้สึกเมารถของผู้โดยสาร โดยใช้รูปแบบไดนามิกในการแจ้งเตือน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกเวียนศีรษะเมื่อใช้โทรศัพท์มือถือในรถยนต์
21 ทางลัดเสียง
ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 18 ที่เรียกว่า “ทางลัดด้วยเสียง” ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ iPhone สามารถปรับแต่งคำสั่งเสียงโดยไม่ต้องใช้ Siri ฟีเจอร์นี้ยังสามารถตั้งค่าการจดจำเสียงเพื่อปรับปรุงการรับรู้เสียงสำหรับผู้ใช้ที่มีความสามารถในการพูดไม่ชัดเจนได้อีกด้วย
22 การประมวลผล AI Edge Computing
ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การประมวลผล AI เกิดขึ้นได้โดยตรงบนอุปกรณ์ เพิ่มความเร็วในการตอบสนองและความปลอดภัยของข้อมูล
บทสรุป
หลังจากที่คุณได้รู้เกี่ยวกับข้อมูล iOS 18 กันแล้ว ซึ่งเราหวังว่าคุณจะทราบถึง iOS 18 รุ่นที่รองรับ และ iOS 18 รุ่นไหนไม่ได้ไปต่ออย่างชัดเจนกันแล้ว สำหรับใครที่กำลังรอ iOS 18 มาตอนไหน ซึ่งเราคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงกันยายนที่จะถึงเร็ว ๆ นี้
อย่างไรก็ตาม ควรติดตามข่าวสารจาก Apple อย่างเป็นทางการเพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเกี่ยวกับการอัปเดต